
PRO-ENVIR CO., LTD.
Water & Wastewater Treatment Specialist Company
ระบบบำบัดน้ำเสียโดยกระบวนการทางกายภาพ
ใช้กำจัดสิ่งเจือปนที่เป็นของแข็งขนาดใหญ่ หรือไขมันและน้ำมัน(FOG – FAT OIL& GREASE) ที่เจือปนอยู่ในน้ำเสีย ระบบที่ใช้ก็จะแตกต่างกันไปตามสิ่งเจือปนที่ต้องการกำจัด สามารถจำแนกได้ดังนี้
-
ตะแกรง (SCREEN) ใช้กำจัดคัดแยกสารแขวนลอยขนาดใหญ่ มีทั้งตะแกรงหยาบและละเอียด มีหลายประเภท ได้แก่ BAR SCREEN, CURVE SCREEN, DRUM SCREEN มีทั้งแบบ MANUAL และ AUTOMATIC การคัดแยกสารแขวนลอยออก จะช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องสูบน้ำอุดตันได้อีกด้วย
-
ถังคัดกรวดและทราย (GRIT CHAMBER) มีหน้าที่คัดกรวดทรายในน้ำเสียเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องสูบน้ำสึกกร่อนและเสียหายจากกรวดทราย
-
ถังดักไขมัน ใช้ดักและกำจัดไขมันหรือน้ำมันที่ไม่ละลายน้ำ โดยอาศัยหลักการว่าความหนาแน่นของไขมันหรือน้ำมันน้อยกว่าน้ำจึงลอยอยู่ที่ผิวน้ำ ส่วนน้ำที่ไม่มีไขมันหรือน้ำมันจะอยู่ด้านล่าง ดังนั้นการออกแบบจะต้องออกแบบให้ถังดักไขมันมีปริมาตรและพื้นที่ผิวน้ำที่เพียงพอ สามารถตักเอาไขมันออกได้สะดวก โดยมีทางออกของน้ำจมอยู่ใต้น้ำ (UNDERFLOW) และต่ำกว่าระดับไขมันหรือน้ำมันที่สะสมอยู่บริเวณผิวน้ำ
-
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบ DAF (DISSOLVED AIR FLOATATION) ในกรณีที่ไขมันหรือน้ำมันละลายอยู่ในน้ำเสีย จะไม่สามารถใช้ถังดักไขมันในการกำจัดไขมันหรือน้ำมันส่วนนี้ได้ ระบบบำบัดน้ำเสียแบบ DAF ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อกำจัดไขมันหรือน้ำมันประเภทนี้ หลักการของระบบคือ การสร้างฟองอากาศขนาดเล็กให้ละลายอยู่ในน้ำเสีย ฟองอากาศเหล่านี้จะนำพาเอาไขมันที่ละลายอยู่ในน้ำเสียขึ้นมาที่ผิวน้ำ จากนั้นจะมีใบกวาด (SKIMMER) กวาดตะกอนไขมันหรือน้ำมันที่สะสมบริเวณผิวน้ำออกมา โดยน้ำที่ผ่านระบบจะ UNDERFLOW ออกทางด้านล่างของถัง DAF เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันหรือน้ำมันอาจมีการเติมสารเคมีเช่น NaOH, PAC หรือ POLYMER ซึ่งจะช่วยให้น้ำเสียเกิดตะกอนก่อนที่ฟองอากาศจะจับเอาตะกอนเหล่านี้ลอยขึ้น ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รูปถัง DAF (DISSOLVED AIR FLOATATION TANK)
ตัวอย่างโครงการ
-
ตัวอย่างระบบบำบัดน้ำเสียแบบ DAF
โครงการ THAI POULTRY GROUP 4,000 ลบ.ม ต่อวัน
โครงการ BELTON TECHNOLOGY (THAILAND)., LTD 90 ลบ.ม ต่อวัน
https://www.proenvir.com/th/ผลงานของเรา/กำจัดไขมัน-daf
หนังสืออ้างอิง: ดร.มั่นสิน ตัณฑุลเวศม์, เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียอุตสาหกรรม เล่ม1, พิมพ์ครั้งที่1 (กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2542), หน้า 5-11